สารบัญ

อินเวอร์เตอร์

ระบบ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) คืออะไร ?

อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ทำหน้าที่ช่วยควบคุมรอบการทำงานของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์

อย่างอัตโนมัติ ในเครื่องปรับอากาศเป็นกระบวนการแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง (DC)

ไปเป็นกระแสสลับ (AC) เพื่อควบคุมรอบมอเตอร์ของคอมเพรสเซอร์

ซึ่งจะควบคุมได้อย่างละเอียดกว่าเครื่องปรับอากาศแบบเดิม Fixed Speed หรือ Non Inverter

ที่จะปรับกระแสไฟฟ้าสลับโดยตรง ทำได้เพียงแค่ ตัด/ต่อ การทำงานของมอเตอร์

กระบวนการของระบบอินเวอร์เตอร์นั้นสามารถปรับความถี่ Hz

ของไฟฟ้าก่อนส่งไปยังคอมเพรสเซอร์ของแอร์จึงสามารถควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ได้ยืดหยุ่นมา กกว่า เช่น เมื่ออุณหภูมิในห้องถึงจุดที่ผู้ใช้งานต้องการแล้ว

คอมเพรสเซอร์จะทำงานเบาลงแต่ไม่หยุดการทำงาน โดยจะรักษาความเย็นตามอุณหภูมิห้องเอาไว้

ข้อดีและประโยชน์ของแอร์ระบบ อินเวอร์เตอร์ ?

เย็นเร็ว ช่วยให้อุณหภูมิห้องสม่ำเสมอ คงที่

เมื่อเปิดเครื่องระบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยให้คอมเพรสเซอร์เร่งความเย็นทำงานสูงสุด ให้ห้องเย็นเร็ว และทำงานต่อเนื่องด้วยการลดรอบการทำงานคอมเพรสเซอร์แบบไม่มีหยุดเป็นช่วงๆ อุณหภูมิในห้องถึงเย็นสบายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวจนเกินไป

ประหยัดไฟมากขึ้น

ช่วยประหยัดค่าไฟมากกว่าระบบแอร์ธรรมดาได้มากถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่ทราบกันว่า

เมื่อเครื่องปรับอากาศทำความเย็นไปถึงระดับที่ผู้ใช้งานกำหนดไว้

คอมเพรสเซอร์จะไม่ได้หยุดทำงานแบบตัดไปเลย แต่จะยังคงทำงานอยู่ เพียงควบคุมรอบของมอเตอร์ให้ช้าลง เพื่อคงอุณหภูมิไว้ ทำให้เวลาที่อุณหภูมิเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องเริ่มการทำงานของคอมเพรสเซอร์ใหม่

ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และช่วยประหยัดไฟได้ดียิ่งขึ้น

ยืดอายุการใช้งาน ไม่กระชากไฟ การทำงานเงียบ

เนื่องจากคอมเพรสเซอร์มีการลดรอบการทำงานลง ดังนั้นเมื่อห้องมีอุณหภูมิที่พอเหมาะแล้ว

คอยล์เย็นและระบบฉีดน้ำยาจะลดเสียงการทำงาน

ทำให้เสียงที่เกิดขึ้นเงียบกว่าเครื่องปรับอากาศรุ่นธรรมดา อีกทั้งการไม่ตัดสตาร์ทใหม่ของมอเตอร์ ทำให้ไฟไม่กระชาก แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก

เป็นการยืดอายุการใช้งานให้กับแอร์ของเราด้วย

ประเภทของเครื่องปรับอากาศ

เลือกเครื่องปรับอากาศ ให้เหมาะกับห้องของคุณ

เครื่องปรับอากาศ แบบติดผนัง (Wall Type)

เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กจนถึงกลาง

เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องต่างๆภายในบ้าน

จะเป็นแอร์ประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดพอดี สามารถติดตั้งสะดวก และดูแลรักษาง่าย

เครื่องปรับอากาศ แบบติดผนัง (Wall Type)

เครื่องปรับอากาศ แบบแขวนใต้ฝ้า (Ceiling Type)

เครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า

เป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยมสำหรับการติดตั้งในห้องที่มีพื้นที่ขนาดกลาง เช่น ห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือห้องอื่นๆที่มีขนาดกลางถึงใหญ่

ต้องการเครื่องปรับอากาศที่สามารถกระจายลมเย็นได้อย่างทั่วถึง นอกจากการกระจายลมเย็น อีกจุดเด่นของเครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้าก็คือ ความทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน เนื่องจากมีระบบภายในตัวเครื่องที่ใหญ่ ช่วยในการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพ

เครื่องปรับอากาศ แบบแขวนใต้ฝ้า (Ceiling Type)

เครื่องปรับอากาศ แบบฝังฝ้า (Cassette Type)

เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า เหมาะสำหรับห้องที่มีเพดานสูงและกว้าง เช่น ห้องทำงาน ห้องรับแขกโดยจุดเด่นที่สำคัญของแอร์แบบฝังฝ้า คือการกระจายลมได้หลายทิศทาง

ในบางรุ่นสามารถกระจายลมเย็นได้ถึง 360 องศา ทำให้สามารถกระจายลมเย็นได้ทั่วถึง รวมถึงมีรูปแบบที่สวยงาม ให้เครื่องปรับอากาศกลมกลืนไปกับเพดานห้อง

ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเนื้อที่ให้กับห้องได้อย่างดี

เครื่องปรับอากาศ แบบฝังฝ้า (Cassette Type)

เครื่องปรับอากาศ แบบท่อลม (Duct Type)

เครื่องปรับอากาศแบบท่อลม หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับหน้าตาของแอร์ท่อลม เนื่องจากรูปแบบของเครื่องปรับอากาศแบบท่อลมนั้น

จะมีการติดตั้งซ่อนไว้ภายในของเพดานนั้นเอง

ทำให้หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นหน้าตาจริงๆของแอร์ท่อลมที่ซ่อนไว้

ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โรมแรม สำนักงาน

จุดเด่นของแอร์ท่อลมคือการทำงานเงียบ ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

เครื่องปรับอากาศ แบบท่อลม (Duct Type)

สิ่งที่ต้องเช็คหลังจากติดตั้งแอร์

อากาศร้อนแบบนี้ มีแอร์เพิ่มสักตัวดีไหม?

มาดูกันว่าเมื่อติดแอร์เครื่องใหม่ ต้องเช็กอะไรบ้างหลังจากที่ช่างติดตั้งเสร็จ

5 สิ่งที่ต้องเช็คหลังจากติดตั้งแอร์

1.ตรวจสภาพภายนอก

ตรวจดูความเรียบร้อยรอบๆคอยล์เย็น คอยล์ร้อน ทั้งในและนอกบ้าน

ว่ามีส่วนไหนที่ดูไม่เรียบร้อยหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้

1.ตรวจสภาพภายนอก

2.ตรวจสอบระยะการติดตั้ง

ตรวจสอบดูระยะที่ติดตั้งแอร์ว่าพอดีแล้วหรือยัง โดยปกติคอยล์เย็นจะต้องอยู่ห่างเพดาน 20 ซม.ขึ้นไป และห่างกำแพงด้านขวา 10 ซม.ขึ้นไป เพื่อให้มีการระบายความร้อนได้ดี ส่วนคอยล์ร้อนควรจะติดตั้งห่างจากสิ่งกีดขวางด้านหน้าในระยะ 70 ซม.ขึ้นไป

2.ตรวจสอบระยะการติดตั้ง

3.ตรวจสอบการใช้งานของรีโมต

ลองใช้ฟีเจอร์ต่างๆในรีโมตให้ครบ โดยเฉพาะโหมดหลักๆที่ต้องใช้ผ่านรีโมต

3.ตรวจสอบการใช้งานของรีโมต

4.ฟังเสียงผิดปกติ

ฟังเสียงการทำงานของแอร์ทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ว่ามีเสียงอะไรดังหรือผิดปกติหรือไม่

4.ฟังเสียงผิดปกติ

5.ตรวจวาล์ว

ตรวจสอบว่าไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ที่ท่อหรือวาล์วหลังจากเปิดแอร์ไปแล้วเป็นเวลา 10 นาที

และไม่ควรมีน้ำหยดหน้าเครื่องหลังจากเปิดแอร์แล้วประมาณ 30 นาที

5.ตรวจวาล์ว